【Update】การสร้าง CData Sync ใน EC2
ครั้งนี้ผมจะมาอธิบายเกี่ยวกับ 【Update】การสร้าง CData Sync ใน EC2 ด้วยขั้นตอนที่ละเอียดและเข้าใจง่าย ไปดูกันเลยครับ
บทความนี้เป็นการ Update ของบทความต่อไปนี้
CData Sync คืออะไร
CData Sync เป็นเครื่องมือ Universal Data Pipeline ที่ช่วยให้สามารถส่งข้อมูลต่อเนื่องอัตโนมัติระหว่างแหล่งข้อมูล Cloud/SaaS กับฐานข้อมูลทั้งแบบดั้งเดิมและข้อมูลพื้นฐานที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ได้หลากหลาย สามารถทำซ้ำข้อมูลเพื่ออำนวยความสะดวกในการรายงานการปฏิบัติงาน เชื่อมต่อข้อมูลกับการวิเคราะห์สำหรับ BI และการสนับสนุนการตัดสินใจ จัดเก็บข้อมูลสำหรับการกู้คืนจากภัยพิบัติ และอื่นๆ อีกมากมาย
การสร้าง Key pair
สามารถดูวิธีการติดตั้ง Key pair ได้ที่บทความของ วิธีติดตั้ง Amazon Linux บน EC2 และเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ด้วยโปรแกรม PuTTy ในหัวข้อ 1. Create Key Pair นี้ได้เลย
คุณสามารถตั้งชื่อว่าอะไรก็ได้ เช่นtinnakorn-cdata-test
การสร้าง CData บน EC2 Instance ด้วย AWS Marketplace
ค้นหา?︎ EC2
และคลิกEC2
เลือกInstances
คลิกLaunch instances
มาที่หัวข้อ Name and tags
» Name:tinnakorn-cdata-test
(ชื่ออะไรก็ได้)
» คลิกAdd additional tags
ถ้าได้หน้าตาแบบนี้ การเพิ่ม tag ก็ถือว่าเสร็จ
หัวข้อถัดมา Application and OS Images (Amazon Machine Image) นี้คือ Instance จะมีเซิร์ฟเวอร์ให้เลือกใช้มากมาย เช่น macOS, Red Hat, SUSE Linux, Ubuntu, Microsoft Windows, Debian เป็นต้น ซึ่งในบทความนี้จะใช้ CData Sync ในการติดตั้ง
» ค้นหา?︎ CData Sync
+ Enter
เมื่อมี CData Sync ปรากฏขึ้นมาแล้ว คลิกSelect
เราสามารถตรวจสอบราคาเบื้องต้นได้โดยคลิกที่หัวข้อPricing
และดูตาม Instance type ที่เราต้องการใช้งาน ซึ่งครั้งนี้เราจะสร้าง CData Sync โดยเลือกเป็น Instance Type:t3.medium
(หัวข้อ Pricing นี้เป็นแค่การตรวจสอบราคา ไม่ใช่การเลือก Instance type)
รายละเอียดของค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสามารถคำนวณได้ดังนี้:
การใช้งาน Instance Type:t3.medium
ใน 1 ชั่วโมง จะมีค่าใช้จ่าย Software ($1.37 หรือ 45.90 บาท/ชม.) และ EC2 ($0.053 หรือ 1.78 บาท/ชม.) เมื่อรวมกันแล้วจะเป็น ($1.423/hr หรือ 47.67 บาท/ชม.) ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ สามารถดูเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่างของตารางในหน้านี้
นอกจากนี้เราสามารถเลือกสเปคจาก Instance Type ได้ตามต้องการ เพราะว่า CData Sync บน Amazon AWS จะมีระดับการให้สิทธิ์ใช้งานตาม Instance Amazon EC2 AMI ที่เราเลือกนั่นเอง
กลับมาที่หัวข้อOverview
และคลิกที่Continue
คลิกConfirm Changes
ถัดมาหัวข้อ Instance type นี้คือ เราสามารถเลือก Type CPU Memory ที่จะนำไปใช้งานได้ตามความต้องการ ไม่ว่าเว็บไซต์จะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ก็สามารถเลือกขนาดความจุของ CPU Memory ได้ตามความเหมาะสม
ค้นหา?︎ t3.medium
และเลือกt3.medium
ก็จะได้สเปค Family:t3 | 2 vCPU | 4 GiB Memory
ตามนี้
ถัดมาหัวข้อ Key pair (login)
เลือก Key pair name - required ที่สร้างไว้เมื่อสักครู่นี้
ถัดมาหัวข้อ Network settings คลิกEdit
เลื่อนมาที่หัวข้อ Firewall (security groups) จากนั้นเปลี่ยนชื่อ Security group name - required และ Description - required เป็นชื่ออะไรก็ได้ เช่นtinnakorn-cdata-test
ถัดมาหัวข้อ Inbound security groups rules นี้คือ การตั้งค่า My IP เพื่อจำกัดการเชื่อมต่อ SSH จากทุกตำแหน่ง ซึ่งในส่วนนี้จะทำให้สามารถเชื่อมต่อ SSH จาก My IP (ที่อยู่ IP ปัจจุบันของคุณ) ได้เท่านั้น และในส่วนของ HTTP จะใช้ในการแสดงผลหน้าเว็บไซต์นั่นเอง
» เปลี่ยน Source type ของ ssh กับ HTTPS ให้เป็น Source type:My IP
ถัดมาหัวข้อ Configure storage นี้คือ เราสามารถเพิ่ม Storage ในส่วนของ Size (GiB) ได้ โดยค่าเริ่มต้นจะเป็น 8GB
» เปลี่ยน Size (GiB) จาก 8 เป็น30
(GiB)
มาที่หัวข้อ Summary ด้านขวามือ คลิกLaunch instance
คลิกView all instances
หลังจากสร้าง Instance เสร็จแล้ว ให้สังเกตคำว่า Status Checks จะเห็นว่ามีสถานะเป็น? Initializing
คือ Instance กำลังทำการสตาร์ทระบบขึ้นมานั่นเอง
เมื่อ Instance เริ่มต้นระบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีสถานะเป็น✅ 2/2 checks passed
วิธีเชื่อมโยง Elastic IP (EIP) ไปยัง EC2 Instance
การเชื่อมโยง Elastic IP (EIP) จะทำให้ Instance ของเราไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง IP Address หลังจากมีการ Stop/Start นั่นเอง
ดูวิธีเชื่อมโยง Elastic IP (EIP) ไปยัง EC2 Instance ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ โดยตั้งชื่อว่าอะไรก็ได้ เช่น "tinnakorn-cdata-test" เป็นต้น
การเชื่อมต่อ CData ด้วย IP Instance
กลับมาที่หน้า EC2 Instance แล้วคัดลอก❐
Public IPv4 address เตรียมไว้
เพื่อนำไปวางที่เว็บเบราว์เซอร์ของเรา
จากนั้นนำ เตรียยม Public IPv4 address โดยการพิมพ์`https://`ตามด้วย`IP`ของคุณ และไปวางที่เว็บเบราว์เซอร์ของเราตามนี้ เช่น
https://***.***.***.***
แล้วจะมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับความไม่ปลอดภัยขึ้นมา
ทีนี้ให้ทำการคลิกที่ขั้นสูง/Advance
ตามด้วยคลิกที่ไปยัง ***.***.***.*** (ไม่ปลอดภัย)
เมื่อเข้ามาหน้า CData แล้ว จะมีหน้าตาแบบนี้
กลับมาที่หน้า EC2 Instance แล้วคัดลอก Instance ID เตรียมไว้
กลับมาที่หน้า CData อีกครั้ง ทีนี้ถ้าเราจะ Login ให้ทำตามวิธีต่อไปนี้
» User:admin
(default)
» Password:Sync22:i-*****************
(Sync22:
ตามด้วยInstance ID
ของคุณ)
» คลิกSign in
คลิก✅ I Agree
เมื่อ Login เข้ามาสำเร็จแล้ว จะแสดงหน้าตาแบบนี้ครับ
ตรวจสอบการใช้งาน CData Sync ด้วย AWS Marketplace Subscriptions
ค้นหา?︎ AWS Marketplace Subscriptions
และคลิกAWS Marketplace Subscriptions
มาที่เมนูด้านซ้ายเลือกManage subscriptions
แล้วเลื่อนลงมาด้านล่าง
จะเห็นว่ามีCData Sync
ของเรามีการใช้งานอยู่ ให้คลิกเข้าไปได้เลย
เราสามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ได้ในหน้าของ CData Sync นี้ได้เลย
ซึ่งจะมีรายละเอียดต่างๆ เช่น Pay as you go ก็คือเริ่มต้นใช้งานระบบอินสแตนซ์จำนวนเท่าใดก็ได้ ประเภทใดก็ได้ ส่วนค่าใช้จ่ายก็จะเก็บเงินตามการใช้งานซอฟต์แวร์และโครงสร้างพื้นฐานตามผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกนั่นเอง
การเชื่อมต่อ PuTTy ด้วย Public IPv4 address Instance
ขั้นตอนนี้จะลองทดสอบ Login เข้าใช้งาน Server Amazon Linux 2
สำหรับผู้ใช้งานที่ยังไม่เคยใช้โปรแกรม PuTTy สามารถ Download PuTTy ได้ที่นี่เลย หรือ ถ้าผู้ใช้งานมี PuTTy อยู่แล้ว ให้ข้ามขั้นตอนการดาวน์โหลดโปรแกรมไปได้เลย
การดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมควรเลือกให้ตรงกับระบบ Windows ของเรา เช่น ถ้าระบบ Windows ของเราเป็น 64-bit ก็ให้เลือกดาวน์โหลดเป็น64-bit x86
เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันนี้ 32-bit ก็ไม่ค่อยมีแล้ว หรือ อาจจะพบได้ในคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่มีขนาด RAM ต่ำกว่า 4 GB นั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความชัวร์ !แนะนำให้ตรวจสอบระบบ Windows ของเราก่อนดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมจะดีที่สุดครับ
เมื่อเรามี PuTTy แล้วให้เปิดโปรแกรม PuTTy เตรียมไว้
แล้วไปที่หน้า EC2 Instance ของเราเพื่อคัดลอก Public IPv4 address มาใส่ใน Host Name ของ PuTTy
PuTTy Configuretion
กลับมาที่หน้า PuTTy แล้วตั้งค่าเพื่อทดสอบการ Login ไปยัง Server ตามขั้นตอนด้านล่างนี้
การตั้งค่า Basic options for your PuTTY session นี้คือ
① เลือกSession
② นำ Public IPv4 address ที่คัดลอกมาสักครู่นี้มาวางที่ Host Name
③ ใส่ชื่อที่ Saved Sessions เช่นtinnakorn-cdata-test
การตั้งค่า Options controlling the connection นี้คือ
» เลือกConnection
» ใส่ค่าการเชื่อมต่อที่ช่อง Seconds between keepalives (0 to turn off):60
การตั้งค่า Data to send to the server นี้คือ
» เลือกData
» ใส่ Auto-login username:ubuntu
การตั้งค่า Options controlling SSH authentication นี้คือ
» เลือกSSH
›Auth
» คลิกBrowse...
มาที่เก็บไฟล์ Key pair ของเรา เช่น This PC › Downloads
แล้วคลิกที่ Key pair ของเรา เช่นtinnakorn-cdata-test.ppk
ตามด้วยคลิกOpen
(หรือจะดับเบิ้ลคลิกที่ตัวไฟล์เลยก็ได้)
เมื่อ Browse ไฟล์.ppk
เสร็จแล้ว คลิกที่Session
เมื่อกลับมาที่หน้า Session แล้ว ทำการบันทึกการตั้งค่าดังนี้
① คลิกSave
② ชื่อที่เราใส่ไว้ก็จะไปอยู่ในช่องตามลูกศร ทีนี้ให้คลิกที่ชื่อเรา (สามารถดับเบิ้ลคลิกเพื่อ Login ได้เลย)
③ คลิกOpen
(ถ้าดับเบิ้ลคลิกจะไม่ต้องกด Open)
คลิกAccept
เมื่อเข้ามาแล้วจะได้หน้าตาแบบนี้โดยมี username "ubuntu" ก็คือเราสามารถ Login เข้ามายัง Server CData Sync ได้แล้ว
Using username "ubuntu". Authenticating with public key "tinnakorn-cdata-test" Welcome to Ubuntu 20.04.4 LTS (GNU/Linux 5.13.0-1014-aws x86_64) * Documentation: https://help.ubuntu.com * Management: https://landscape.canonical.com * Support: https://ubuntu.com/advantage This system has been minimized by removing packages and content that are not required on a system that users do not log into. To restore this content, you can run the 'unminimize' command. 0 updates can be applied immediately. The list of available updates is more than a week old. To check for new updates run: sudo apt update Last login: Mon Mar 7 18:03:17 2022 from 45.37.67.73 ubuntu@ip-172-31-4-98:~$
ทีนี้มาทดสอบการเข้าสู่ระบบในฐานะผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ root โดยการเปลี่ยน ubuntu ให้เป็น root กันครับ
รันคำสั่งsudo su -
นี้เพื่อเข้าสู่ระบบในฐานะผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ root
Using username "ubuntu". Authenticating with public key "tinnakorn-cdata-test" Welcome to Ubuntu 20.04.4 LTS (GNU/Linux 5.13.0-1014-aws x86_64) * Documentation: https://help.ubuntu.com * Management: https://landscape.canonical.com * Support: https://ubuntu.com/advantage This system has been minimized by removing packages and content that are not required on a system that users do not log into. To restore this content, you can run the 'unminimize' command. 0 updates can be applied immediately. The list of available updates is more than a week old. To check for new updates run: sudo apt update Last login: Mon Mar 7 18:03:17 2022 from 45.37.67.73 ubuntu@ip-172-31-4-98:~$ sudo su - "รันคำสั่งนี้เพื่อเข้าสู่ระบบในฐานะผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ root" root@ip-172-31-4-98:~#
เมื่อเข้าสู่ระบบในฐานะผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ root ได้แล้ว มาลอง upgrade server ให้เป็นปัจจุบันโดยรันคำสั่งapt-get upgrade
นี้กันครับ
root@ip-172-31-4-98:~# apt-get upgrade "รันคำสั่งนี้เพื่อ upgrade server ให้เป็นปัจจุบัน" Reading package lists... Done Building dependency tree Reading state information... Done Calculating upgrade... Done 0 upgraded, 0 newly installed, 0 to remove and 0 not upgraded. root@ip-172-31-4-98:~#
สรุป
การสร้าง CData Sync ใน EC2 นั้นสามารถทำผ่าน Console AWS ได้ง่ายๆ โดยเริ่มต้นจากการสร้าง CData Sync แล้วเลือก Instance Type ที่ต้องการใช้งาน ซึ่งแต่ละประเภทของ Instance นั้นจะมีระดับการใช้งานและค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน จากนั้นเราก็ทำการเชื่อมต่อ CData Sync ผ่านเว็บเบราว์เซอร์โดยการเปิดหน้าเว็บไซต์และ login เข้าไป ทีนี้เราก็จะสามารถใช้ CData Sync ได้ นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าไปยัง Server CData Sync ได้โดยการเชื่อมต่อผ่าน PuTTy ได้อีกด้วย
การเลือก Instance Type นั้น ควรเลือกให้เหมาะสมกับประเภทงานหรือธุรกิจของคุณ เพราะว่าคุณสามารถเริ่มต้นใช้งานระบบอินสแตนซ์จำนวนเท่าใดก็ได้ ประเภทใดก็ได้ ส่วนค่าใช้จ่ายก็จะเก็บเงินตามการใช้งานซอฟต์แวร์และโครงสร้างพื้นฐานตามผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือก หรือที่เรียกกันว่า Pay as you go นั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง
- การสร้าง CData Sync ใน EC2
- วิธีติดตั้ง Amazon Linux บน EC2 และเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ด้วยโปรแกรม PuTTy
- วิธีเชื่อมโยง Elastic IP (EIP) ไปยัง EC2 Instance
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ | สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS คลิกที่นี่ |